เปิดตัว iPhone X และ iPhone 8
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPhone X แล้ว เหล่า iPhone 8 และ iPhone 8 plus เรามาดูสเปกกับราคาเปิดตัวกันดีกว่าเน๊าะ
ทางด้าน Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone X และ iPhone 8 ก็มีหลายคำถามที่ชาวเน็ตสงสัย ว่าราคาเท่าไหร่ เหมาะสมหรือไม่ คุ้มค่ากับการรอคอยไหม
ราคา iPhone รุ่นใหม่และรุ่นเก่า |
ซึ่ง ราคา iPhone X เปิดตัวมานั้น อยู่ที่ 999 $ หรือ 1,000 $ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 33,000 บาท ราคานี้ยังไม่รวมภาษี และในราคา 999 $ นั้น จะได้ความจุที่ 64 GB แต่ถ้าอยากได้ ความจุมากขึ้นก็ อยู่ที่ 256 GB ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,149 $ หรืิอประมาณ 38,000 บาท ราคานี้ยังไม่รวมภาษี และ สเปกที่เปิดตัวนั้น สื่อส่วนมากก็ทายถูก ซึ่งหลักๆ ก็มี เช่น
- หน้าจอที่ไม่มีปุ่มโฮม
- กล้องหลังแบบแนวตั้ง
- สามารถชาตแบตแบบไร้สายได้
- จอภาพแบบ 4K HDR
- แสกนใบหน้า
- อื่นๆ
- หน้าจอเป็น Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว
- ตัวเครื่องกันฝุ่นกันน้ำ
- ชิพเซ็ตเป็น Apple A11 Bionic CPU 6 Core ประมวลผลเร็วขึ้น 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- มี GPU แยกออกมาต่างหากเป็นครั้งแรกเพื่อประมวลผลกราฟฟิคสูงๆ
- กล้องด้านหน้าถ่ายภาพชัดลึกได้ด้วย
- กล้องหลังเป็นแบบคู่แนวตั้ง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว แต่รูรับแสงแบ่งเป็น F1.8 และ F2.4 มีเซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่กว่า และมีระบบกันสั่นที่กล้องทั้งสองตัว และรองรับเทคโนโลยี AR
- มี Face ID จดจำใบหน้า และสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหรือยืนยันตัวตน
- รองรับระบบชาร์จไฟไร้สายมาตรฐาน Qi
- แบตอึดขึ้น 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบ iPhone 7
- มี 2 สีให้เลือกคือสี Space Gray และ Silver
และในส่วนของ iPhone 8 และ iPhone 8 plus นั้น การดีไซน์จะคล้ายกับ iPhone 7 ซึ่งมีปุ่มโฮมที่เหมือนกัน เรามาดูราคาเปิดตัวของ iPhone 8 กันดีกว่า
- iPhone 8 256 GB ราคา $849 (ประมาณ 29,900 บาท)
- iPhone 8 Plus 64 GB ราคา $799 (ประมาณ 27,900 บาท)
- iPhone 8 Plus 256 GB ราคา $949 (ประมาณ 33,900 บาท)
สเปก iPhone 8
- ขนาดตัวเครื่อง 138.4 x 67.3 x 7.3 มม. หนัก 148 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 4.7 นิ้ว แบบ True Tone Display (IPS LCD) ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326 ppi)
- ชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core Processor (64-bit) พร้อมระบบ Neural Engine และ Apple M11 หน่วยประมวลผลร่วมสำหรับประมวลผลด้านการเคลื่อนไหว
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB และ 256 GB
- กล้องด้านหน้าแบบ FaceTime ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น (OIS), รูรับแสง F/1.8 และไฟแฟลชแบบ Quad-LED (4 ดวง)
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- รองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย และระบบชาร์จเร็ว
- ฟีเจอร์ 3D Touch และ Touch ID ที่ปุ่ม Home
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Lightning
- ลำโพงสเตอริโอแบบใหม่ เสียงดังขึ้นกว่าเดิม 25%
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 11
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gold, Silver และ Space Gray
- ราคา iPhone 8 ในสหรัฐฯ อยู่ที่ $699 (ประมาณ 24,900 บาท) สำหรับขนาด 64 GB และ $849 (ประมาณ 29,900 บาท) สำหรับขนาด 256 GB
สเปก iPhone 8 plus
- ขนาดตัวเครื่อง 158.4 x 78.1 x 7.5 มม. หนัก 202 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว แบบ True Tone Display (IPS LCD) ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi)
- ชิปเซ็ต Apple A11 Bionic แบบ 6-Core Processor (64-bit) พร้อมระบบ Neural Engine และ Apple M11 หน่วยประมวลผลร่วมสำหรับประมวลผลด้านการเคลื่อนไหว
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 64 GB และ 256 GB
- กล้องด้านหน้าแบบ FaceTime ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/2.2
- กล้องคู่ด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกอบด้วยเลนส์มุมกว้าง รูรับแสง F/1.8 และเลนส์ Telephoto รูรับแสง F/2.8, ระบบกันสั่นคู่ OIS, ไฟแฟลชแบบ Quad-LED True Tone Flash, รองรับโหมด Portrait กับ Portrait Lighting และซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- รองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย และระบบชาร์จเร็ว
- ฟีเจอร์ 3D Touch และ Touch ID ที่ปุ่ม Home
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Lightning
- ลำโพงสเตอริโอแบบใหม่ เสียงดังขึ้นกว่าเดิม 25%
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 11
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gold, Silver และ Space Gray
- ราคา iPhone 8 Plus ในสหรัฐฯ อยู่ที่ $799 (ประมาณ 27,900 บาท) สำหรับขนาด 64 GB และ $949 (ประมาณ 33,900 บาท) สำหรับขนาด 256 GB
ซึ่งที่กล่าวมาทั้ง 3 รุ่นนี้ ต่างประเทศจะทำการเปิดขายวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 เป็นวันแรก แต่จะเข้าไทยวันไหน เราต้องมาลุ้นกันเนาะ
รีวิวเล็กๆ จากสื่อของต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น