หลังจากที่เรือธงตัวล่าสุดของค่าย Apple ได้เปิดตัวนั่นก็คือ iPhone X (อ่านว่า ไอโฟนเท็น) ซึ่งเป็น iPhone รุ่นครบรอบ 10 ปี iPhone ซึ่ง Apple สร้างขึ้นมาเพื่อแสดงถึงแนวทางในการพัฒนา iPhone ในอนาคต
ซึ่งทาง Apple เปิดตัวมานั้น หลายสื่อต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และแน่นอนค่ะ สาวก iPhone ก็สนใจมากด้วยเช่นกัน บางประเทศถึงขั้นไปต่อแถวตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตนเองจะได้เป็นผู้ครอบครองครื่องเป็นคนแรก และวันนี้เราจะมาดูฟีเจอร์ต่างๆ ของ iPhone X กัน ว่าจะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ
ฟีเจอร์คร่าว ๆ ของ iPhone X
ตัวเครื่องทำจากกระจกและสแตนเลส หน้าจอไร้ขอบ ไม่มีปุ่มโฮม มาพร้อมจอ Super Retina Display 5.8 นิ้ว ความละเอียด 458 พิกเซลต่อตารางนิ้ว กันน้ำและฝุ่น
ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 64 บิต 6 แกนประมวลผลแบบเดียวกับ iPhone 8ปลดล็อกด้วยการแสกนใบหน้า
กล้องของ iPhone X
iPhone X มาพร้อมกล้อง 12 ล้านพิกเซล F 1.8 และ 2.4 เซ็นเซอร์ใหญ่กว่าเดิม รองรับ Optical Image Stablization ทั้งสองตัว ถ่ายภาพได้นิ่งกว่าเดิม มีการใช้ True Tone Flash แบบใหม่โดยใช้หลอด LED ทั้งหมด 4 ตัว เพื่อทำให้ภาพออกมาสีธรรมชาติที่สุด
Apple ได้เคลมว่าความเร็วที่นิ้วเรากดหน้าจอไปจะไปกดชัตเตอร์โดยทันที ทำให้ไม่พลาดช็อตเด็ด แถมiPhone X รองรับการถ่ายวิดีโอ 4k ที่ 60 FPS เหมือนกัน iPhone 8
ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้จากกล้องหน้ารองรับ Low Light Portrait เหมือนกับกล้องหลัง
ชิปประมวลผล A11 Bionic
ชิป A11 Bionic นั้นเป็นชิปประมวลผลแบบเดียวกับที่ Apple ใช้บน iPhone 8 ซึ่งนอกจากจะมีการพัฒนาด้านต่าง ๆ แล้ว Apple ยังได้ออกแบบ GPU หรือส่วนประมวลผลกราฟิกด้วยเทคนิคของตัวเองเพือให้รองรับการใช้งาน AR หรือการแทนวัตถุเสมือนจริงลงบนภาพที่ได้จากกล้องหลังของ iPhone ซึ่งจะถูกนำไปใช้ร่วมกับเกมต่าง ๆ รวมถึงแอพยอดฮิตที่มีการใช้เทคโนโลยี AR อย่าง Pokemon Go และ Snapchat
Face ID
มีฟีเจอร์ Face ID ที่จะประมวลผลใบหน้าของเรามาใช้เพื่อปลดล็อกเครื่องและทำการซื้อของต่าง ๆ เหมือนกับ Touch ID สามารถทำได้ทุกประกาศ โดย Apple ได้เน้นย้ำตรงนี้ว่าเป็นการประมวลผลขั้นสูง ทำให้ไม่สามารถปลอมแปลงได้และ Face ID จะไม่แสกนหน้าที่อยู่บนภาพถ่ายเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเราเป็นคนปลดล็อกจริง ๆ
ข้อมูลจะถูกจัดเก็บลงใน iPhone และจะไม่มีการบันทึกหน้าตาของผู้ใช้งานส่งขึ้น Server ของ Apple เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
เนื่องจากมีการฉายแสงอินฟาเรดไปที่หน้า ทำให้สามารถใช้งานได้แม้อยู่ในที่มืด ซึ่งแสงอินฟาเรดเป็นช่วงแสงที่เรามองไม่เห็นแต่กล้องมองเห็นดังนั้นสามารถแสกนหน้าได้แม้อยู่ในสถานที่ที่แสงน้อยหรือไม่มีแสง
ของเล่นใหม่ Animoji
เป็นการใช้ความสามารถของกล้องหน้า iPhone X ที่ทำงานร่วมกับ A11 Bionic มาประมวลผลจับสีหน้าของเราและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ และนำมาสร้างเป็น Animation ให้กับ Emoji ต่าง ๆ ราวกับว่า Emoji นั้น คือหน้าของเรา ซึ่งเราสามารถอัดเป็นวิดีโอแล้วส่งผ่าน iMessage ได้
ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่
เนื่องจาก iPhone X ไม่มีปุ่ม Home ทำให้การกลับไปที่หน้า Home จะทำโดยการปัดหน้าจอขึ้นไปด้านบน ส่วนการสลับแอพจะทำได้โดยการปัดหน้าจอด้านขอบล่างของจอเช่นกัน
สรุปข้อมูลคร่าวๆค่ะ
- หน้าจอเป็น Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว
- ตัวเครื่องกันฝุ่นกันน้ำ
- ชิพเซ็ตเป็น Apple A11 Bionic CPU 6 Core ประมวลผลเร็วขึ้น 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- มี GPU แยกออกมาต่างหากเป็นครั้งแรกเพื่อประมวลผลกราฟฟิคสูงๆ
- กล้องด้านหน้าถ่ายภาพชัดลึกได้ด้วย
- กล้องหลังเป็นแบบคู่แนวตั้ง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว แต่รูรับแสงแบ่งเป็น F1.8 และ F2.4 มีเซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่กว่า และมีระบบกันสั่นที่กล้องทั้งสองตัว และรองรับเทคโนโลยี AR
- มี Face ID จดจำใบหน้า และสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหรือยืนยันตัวตน
- รองรับระบบชาร์จไฟไร้สายมาตรฐาน Qi
- แบตเตอรี่อึดขึ้น 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone 7
ราคาและการวางจำหน่าย
Apple ประกาศราคาสำหรับ iPhone X ในประเทศไทย ราคาในประเทศไทยนั้นก็ประมาณ 40,500 บาท สำหรับขนาดความจุ 64GB ส่วนรุ่นท็อปขนาดความจุ 256GB เคาะราคาที่ 46,500 บาท
ฟีเจอร์คร่าว ๆ ของ iPhone X
ตัวเครื่องทำจากกระจกและสแตนเลส หน้าจอไร้ขอบ ไม่มีปุ่มโฮม มาพร้อมจอ Super Retina Display 5.8 นิ้ว ความละเอียด 458 พิกเซลต่อตารางนิ้ว กันน้ำและฝุ่น
ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 64 บิต 6 แกนประมวลผลแบบเดียวกับ iPhone 8ปลดล็อกด้วยการแสกนใบหน้า
กล้องของ iPhone X
iPhone X มาพร้อมกล้อง 12 ล้านพิกเซล F 1.8 และ 2.4 เซ็นเซอร์ใหญ่กว่าเดิม รองรับ Optical Image Stablization ทั้งสองตัว ถ่ายภาพได้นิ่งกว่าเดิม มีการใช้ True Tone Flash แบบใหม่โดยใช้หลอด LED ทั้งหมด 4 ตัว เพื่อทำให้ภาพออกมาสีธรรมชาติที่สุด
Apple ได้เคลมว่าความเร็วที่นิ้วเรากดหน้าจอไปจะไปกดชัตเตอร์โดยทันที ทำให้ไม่พลาดช็อตเด็ด แถมiPhone X รองรับการถ่ายวิดีโอ 4k ที่ 60 FPS เหมือนกัน iPhone 8
ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้จากกล้องหน้ารองรับ Low Light Portrait เหมือนกับกล้องหลัง
ชิปประมวลผล A11 Bionic
ชิป A11 Bionic นั้นเป็นชิปประมวลผลแบบเดียวกับที่ Apple ใช้บน iPhone 8 ซึ่งนอกจากจะมีการพัฒนาด้านต่าง ๆ แล้ว Apple ยังได้ออกแบบ GPU หรือส่วนประมวลผลกราฟิกด้วยเทคนิคของตัวเองเพือให้รองรับการใช้งาน AR หรือการแทนวัตถุเสมือนจริงลงบนภาพที่ได้จากกล้องหลังของ iPhone ซึ่งจะถูกนำไปใช้ร่วมกับเกมต่าง ๆ รวมถึงแอพยอดฮิตที่มีการใช้เทคโนโลยี AR อย่าง Pokemon Go และ Snapchat
Face ID
มีฟีเจอร์ Face ID ที่จะประมวลผลใบหน้าของเรามาใช้เพื่อปลดล็อกเครื่องและทำการซื้อของต่าง ๆ เหมือนกับ Touch ID สามารถทำได้ทุกประกาศ โดย Apple ได้เน้นย้ำตรงนี้ว่าเป็นการประมวลผลขั้นสูง ทำให้ไม่สามารถปลอมแปลงได้และ Face ID จะไม่แสกนหน้าที่อยู่บนภาพถ่ายเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเราเป็นคนปลดล็อกจริง ๆ
ข้อมูลจะถูกจัดเก็บลงใน iPhone และจะไม่มีการบันทึกหน้าตาของผู้ใช้งานส่งขึ้น Server ของ Apple เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
เนื่องจากมีการฉายแสงอินฟาเรดไปที่หน้า ทำให้สามารถใช้งานได้แม้อยู่ในที่มืด ซึ่งแสงอินฟาเรดเป็นช่วงแสงที่เรามองไม่เห็นแต่กล้องมองเห็นดังนั้นสามารถแสกนหน้าได้แม้อยู่ในสถานที่ที่แสงน้อยหรือไม่มีแสง
ของเล่นใหม่ Animoji
เป็นการใช้ความสามารถของกล้องหน้า iPhone X ที่ทำงานร่วมกับ A11 Bionic มาประมวลผลจับสีหน้าของเราและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ และนำมาสร้างเป็น Animation ให้กับ Emoji ต่าง ๆ ราวกับว่า Emoji นั้น คือหน้าของเรา ซึ่งเราสามารถอัดเป็นวิดีโอแล้วส่งผ่าน iMessage ได้
ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่
เนื่องจาก iPhone X ไม่มีปุ่ม Home ทำให้การกลับไปที่หน้า Home จะทำโดยการปัดหน้าจอขึ้นไปด้านบน ส่วนการสลับแอพจะทำได้โดยการปัดหน้าจอด้านขอบล่างของจอเช่นกัน
สรุปข้อมูลคร่าวๆค่ะ
- หน้าจอเป็น Super Retina Display ขนาด 5.8 นิ้ว
- ตัวเครื่องกันฝุ่นกันน้ำ
- ชิพเซ็ตเป็น Apple A11 Bionic CPU 6 Core ประมวลผลเร็วขึ้น 25% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- มี GPU แยกออกมาต่างหากเป็นครั้งแรกเพื่อประมวลผลกราฟฟิคสูงๆ
- กล้องด้านหน้าถ่ายภาพชัดลึกได้ด้วย
- กล้องหลังเป็นแบบคู่แนวตั้ง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งสองตัว แต่รูรับแสงแบ่งเป็น F1.8 และ F2.4 มีเซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่กว่า และมีระบบกันสั่นที่กล้องทั้งสองตัว และรองรับเทคโนโลยี AR
- มี Face ID จดจำใบหน้า และสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหรือยืนยันตัวตน
- รองรับระบบชาร์จไฟไร้สายมาตรฐาน Qi
- แบตเตอรี่อึดขึ้น 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone 7
ราคาและการวางจำหน่าย
Apple ประกาศราคาสำหรับ iPhone X ในประเทศไทย ราคาในประเทศไทยนั้นก็ประมาณ 40,500 บาท สำหรับขนาดความจุ 64GB ส่วนรุ่นท็อปขนาดความจุ 256GB เคาะราคาที่ 46,500 บาท
ขอบคุณของมูลและรูปภาพจาก : Apple : iaumreview
สำหรับบทความนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะ ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้าน่ะค่ะ บั๊ยบายค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ThaiPaymall.com
สำหรับบทความนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะ ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้าน่ะค่ะ บั๊ยบายค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ThaiPaymall.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น